คำถาม guideline
การตรวจวิเคราะห์ด้วยการสแกนกระดูก, อัลตร้าซาวด์ตับและเอ็กซเรย์ปอดช่วยวิเคราะห์การกระจายของโรคหรือไม่ในผู้ ป่วยมะเร็งเต้านมที่ไม่มีอาการและสามารถผ่าตัดได้
มะเร็งเต้านมระยะใดที่พบการกระจายของโรคไปอวัยวะอื่นได้บ่อยสุด และควรจะตรวจด้วยการสแกนกระดูก, อัลตร้าซาวด์ตับและเอ็กซเรย์ปอด
มีข้อบ่งชี้ในการตรวจก่อนผ่าตัดหรือไม่ ควรตรวจในกรณีใด หรือควรจะตรวจวิเคราะห์หลังผ่าตัด
ผู้ป่วยกลุ่มเป้าหมาย
ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับการวินิจฉัยครั้งแรกและได้รับการผ่าตัดแล้ว ไม่มีอาการ, ตรวจร่างกายผิดปกติที่บ่งชี้ถึงการกระจายของโรค
สรุปคำแนะนำ
การตรวจวิเคราะห์ด้วยการสแกนกระดูก, อัลตร้าซาวด์ตับและเอ็กซเรย์ปอดไม่ได้เป็นข้อบ่งชี้ก่อนการผ่าตัดในผู้ป่วยทุกราย
ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้น (intraductal and stage I) การตรวจวิเคราะห์ด้วยการสแกนกระดูก,อัลตร้าซาวด์ตับและเอ็กซเรย์ปอดไม่ได้ เป็นข้อบ่งชี้
ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะที่ 2 ควรตรวจวิเคราะห์ด้วยการสแกนกระดูกหลังจากผ่าตัด ส่วนอัลตร้าซาวด์ตับและเอ็กซเรย์ปอดไม่ได้เป็นข้อบ่งชี้ (ยกเว้นถ้ามีการกระจายของมะเร็งมาที่ต่อมน้ำเหลืองมากกว่าหรือเท่ากับ4 ต่อม ควรพิจารณาทำอัลตร้าซาวด์ตับและเอ็กซเรย์ปอด)
ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะที่ 3 การตรวจวิเคราะห์ด้วยการสแกนกระดูก, อัลตร้าซาวด์ตับและเอ็กซเรย์ปอดเป็นข้อบ่งชี้หลังการผ่าตัด
ในผู้ป่วยที่การรักษาทำได้เฉพาะให้ยาฮอร์โมนหรือยา tamoxifen, หรือด้วยข้อจำกัดการรักษาด้านต่างๆ เช่น อายุมาก การตรวจวิเคราะห์ด้วยการสแกนกระดูก, อัลตร้าซาวด์ตับและเอ็กซเรย์ปอดไม่ได้เป็นข้อบ่งชี้
Key Evidence
มี 11 การศึกษา เกี่ยวกับการสแกนกระดูกที่รายงานตั้งแต่ปี 1972-1980 มีผู้ป่วยทั้งหมด 1307 คน
พบว่ามีมะเร็งกระจายไปกระดูก 6.8% ในผู้ป่วยมะเร็งระยะที่1, 8.8% ในผู้ป่วยมะเร็งระยะที่2, 24.5%
ในผู้ป่วยมะเร็งระยะที่3 นอกจากนี้มีผู้ป่วยอีก 5407 คนใน 9 การศึกษาเกี่ยวกับการสแกนกระดูกที่รายงานตั้งแต่ปี 1985-1995 พบว่ามีมะเร็งกระจายไปกระดูก 0.5% ในผู้ป่วยมะเร็งระยะที่1 , 2.4% ในผู้ป่วยมะเร็งระยะที่2, และ 8.3% ในผู้ป่วยมะเร็งระยะที่ 3
มีผู้ป่วย 1625 คนจากใน 4 การศึกษาเกี่ยวกับการอัลตร้าซาวด์ตับซึ่งรายงานไว้ในปี 1988 -1993, พบว่าไม่มีการตรวจพบมะเร็งกระจายไปตับในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะที่ 1, พบมะเร็งกระจายไปตับ 0.4% ในผู้ป่วยมะเร็งระยะที่ 2, และ 2.0% ในผู้ป่วยมะเร็งระยะที่ 3
มีผู้ป่วย 3884 คนจากใน 2 การศึกษาที่ตีพิมพ์ในปี 1988 และ 1991 เกี่ยวกับเอ็กซเรย์ปอดที่ตรวจพบมะเร็งกระจายไปปอด ประมาณ 0.1% ของผู้ป่วยมะเร็งระยะที่ 1 , 0.2%ของผู้ป่วยมะเร็งระยะที่ 2, และ 1.7% ของผู้ป่วยมะเร็งระยะที่ 3
การสแกนกระดูกมีอัตราการเกิดผลบวกเท็จ 10-22%, การอัลตร้าซาวด์ตับมีอัตราการเกิดผลบวกเท็จ 3-66%,การเอ็กซเรย์ปอดมีอัตราการเกิดผลบวกเท็จประมาณ 10%
งานวิจัยในอนาคต
ควร จะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างต่อมน้ำเหลืองที่ตรวจพบกับอัตราการพบการ กระจายของมะเร็งจากการ ตรวจโดยการสแกนกระดูก, อัลตร้าซาวด์ตับและเอ็กซเรย์ปอด